เงินกู้ย่อยคือสินเชื่อระยะสั้นสูงสุด 50,000–200,000 บาท ที่เสนอโดยสถาบันการเงินนอกระบบธนาคาร (Non-Bank) และธนาคารออนไลน์เป็นหลัก เหมาะสำหรับค่าใช้จ่ายเร่งด่วน เช่น ซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล หรือทุนหมุนเวียนธุรกิจขนาดเล็ก ในปี 2025 ตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลและเงินกู้ย่อยเติบโตต่อเนื่อง โดยธปท. รายงานว่าภาคสินเชื่อนอกระบบมีมูลค่ากว่า 500,000 ล้านบาท และเติบโต 10-15% จากการขยายตัวของแพลตฟอร์มดิจิทัล บริษัทชั้นนำอย่าง LINE BK, TrueMoney Wallet, SCB Easy และ K PLUS จากกสิกรไทย นำเสนอบริการสินเชื่อออนไลน์ที่รวดเร็ว ระเบียบของธปท. กำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยที่มีผล (ไม่เกิน 25-36% ต่อปี ขึ้นกับประเภท) และบังคับใช้ KYC/AML เพื่อป้องกันการฟอกเงินและคุ้มครองผู้บริโภค นอกจากนี้ โปรแกรมรัฐบาลอย่าง “สินเชื่อประชาชน” หรือสินเชื่อ SME จากธนาคารรัฐให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ นี่คือขั้นตอนพื้นฐานสำหรับคนไทยในการขอเงินกู้ย่อย:
- ประเมินความต้องการและความสามารถชำระหนี้: เริ่มต้นด้วยการคำนวณค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและรายได้สุทธิ ใช้เครื่องคำนวณสินเชื่อบนแอปหรือเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ เช่น LINE BK หรือ TrueMoney เพื่อดูวงเงินและดอกเบี้ยที่คาดการณ์ ตรวจสอบเครดิตบูโร (บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ) – แม้คะแนนต่ำก็ยังมีโอกาสได้รับอนุมัติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกู้เกินตัวเพื่อป้องกันหนี้ท่วมหัว
- เลือกผู้ให้กู้ที่น่าเชื่อถือ: เลือกสถาบันที่ได้รับอนุญาตจากธปท. หรือกระทรวงการคลัง (ตรวจสอบรายชื่อที่ bot.or.th หรือ fin.go.th) ในปี 2025 ผู้ให้บริการยอดนิยม ได้แก่ LINE BK (สินเชื่อด่วนสูงสุด 100,000 บาท อนุมัติเร็ว), TrueMoney (เงินกู้ย่อยผ่านวอลเล็ต), SCB X (สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์) และ Dolfin Money จากเซ็นทรัล สำหรับผู้ประกอบการ มีสินเชื่อจากธนาคารออมสินหรือธกส. ที่อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า
- ยื่นคำขอออนไลน์: เตรียมเอกสารพื้นฐาน ได้แก่ บัตรประชาชน, รายงานธนาคารย้อนหลัง 3-6 เดือน, สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานรายได้ (สำหรับฟรีแลนซ์ใช้ statement) และเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้งาน การยื่นผ่านแอปหรือเว็บใช้เวลาเพียง 15-30 นาที ระบบจะตรวจสอบข้อมูลอัตโนมัติและแจ้งผลในไม่กี่นาทีถึง 1 วัน
- รับเงินและจัดการการชำระคืน: เมื่ออนุมัติ เงินจะเข้าบัญชีธนาคารหรือวอลเล็ตภายใน 15-60 นาที สามารถเลือกชำระแบบรายเดือนหรือครั้งเดียว หลีกเลี่ยงการรีไฟแนนซ์หรือขยายเวลาที่มีค่าธรรมเนียมสูง สำหรับสินเชื่อรัฐบาลหรือธนาคาร มีตัวเลือกผ่อนยาวและดอกเบี้ยต่ำกว่า
ความเสี่ยงหลักคืออัตราดอกเบี้ยสูง (บางแห่งถึงเพดานกฎหมาย) และค่าปรับกรณีผิดนัด ซึ่งอาจนำไปสู่หนี้สินสะสม ในปี 2025 ธปท. และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพิ่มมาตรการคุ้มครอง เช่น ห้ามโฆษณาหลอกลวงและกำหนดเพดานค่าธรรมเนียม ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น – ควรปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินหรือตรวจสอบที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ส่วนบุคคล